(ค่อนข้างยาว และน้ำท่วมทุ่ง เป็นเรื่องราวการย้อนอดีตของหญิงวัยกลางคน
ถ้าท่านไม่มีเวลา สามารถเปิดข้ามไป ไม่ได้พลาดอะไรที่สำคัญเลยแม้แต่น้อย)
---
ห่างออกไปเมื่อไกลโพ้น
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 กำมะหยี่เพิ่งตั้งไข่ ดำเนินกิจการมาได้เพียง 3 ปี ในงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ ตอนนั้นยังไม่มีบูธของตัวเอง เราขนหนังสือไปฝากขายยังบรรดาบูธมิตรสหาย เล่มที่เราออกใหม่ในงานนั้นคือ การปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก ฉบับกำมะหยี่พิมพ์ 1 หน้าปกเป็นรูปถ่ายขาวดำ รูปบันได ตรงชานปลายสุดมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินผ่านไป
ในงาน เราขายเล่มนี้ได้เยอะมาก—อย่างน้อยก็ในความรู้สึกของเรา—แต่ดันเกิดเหตุฟ้าผ่า จำต้องเก็บหนังสือกลับโรงพิมพ์เป็นการด่วนกลางงาน เนื่องจากมีคำสะกดผิดบนปก โชคดีที่ยังไม่ได้ส่งไปคลังผู้จัดจำหน่ายเลยยังไม่ได้กระจายไปทั่วประเทศ หนังสือเล่มที่ขายในงานหนังสือครั้งนั้นจึงกลายเป็นหนังสือสะสมไปโดยปริยาย คล้าย ‘แสตมป์ตลก’ ซึ่งพิมพ์เคลื่อน กล่าวดังนี้ได้ เพราะว่าในภายหลัง เราประกาศแจ้งเปิดให้ผู้มีหนังสือรุ่นนี้นำมาเปลี่ยนหรือรับเงินคืน ไม่ปรากฏว่ามีใครติดต่อมาแม้แต่คนเดียว
ในงานหนังสือเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 นั้นเอง เราได้ยินคนกระซิบกระซาบกันดังๆ ว่า บันทึกนกไขลาน ถูกนำมาลงกระบะลดราคาเหลือเล่มละ 50 บาท ตอนที่ได้ยินดังนั้น ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่รู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับเราระดับต้องสะดุ้งสะเทือน แม้ว่าเราจะมีโครงการจะออกผลงานของฮารูกิ มูราคามิ ไปเรื่อยๆ แต่หนังสือหนาๆ เล่มนั้นอยู่ในอันดับท้ายๆ จนเราแทบไม่รู้สึกถึงตัวตน ส่วนหนึ่ง และน่าจะเป็นส่วนใหญ่ คงเป็นเพราะเราสะเทือนใจกับเหตุเก็บหนังสือกลับไปซ่อมตรงหน้ามากจนไม่มีกะใจประมวลสถานการณ์ลดราคาครั้งนั้นมาใช้ทักทำนายอนาคต
---
คืบเข้ามาอยู่ชิดใกล้
จนมาถึง พ.ศ.2559 อีก 5 ปีต่อมา เมื่อจัดพิมพ์ ‘เก็บ’ ผลงานนวนิยายของมูราคามิจนหมด ทั้งที่เคยพิมพ์มาก่อนหน้านี้แล้วและที่เราเป็นผู้จัดแปลจัดพิมพ์ครั้งแรก เราก็ไม่อาจบ่ายเบี่ยงเลี่ยงบาลีทำไม่รู้ไม่ชี้ได้อีกต่อไป
ถึงเวลาของ บันทึกนกไขลาน ฉบับกำมะหยี่พิมพ์ 1 หนังสือเล่มหนาที่สุดเท่าที่เราเคยจัดพิมพ์ ด้วยรวมสามเล่มในต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นไว้ในเล่มเดียว ทั้งยังมีส่วนแปลใหม่ให้ครบถ้วนในจุดที่ฉบับภาษาอังกฤษตัดทิ้งไป ด้วยเหตุนี้ฉบับกำมะหยี่พิมพ์จึงมีผู้แปลร่วม นพดล-จินตนา เวชสวัสดิ์ โดยคุณจินตนากรุณาช่วยดูแลแปลส่วนที่ถูกตัดไปให้จากภาษาญี่ปุ่น เติมเข้ามาในต้นฉบับแปลเดิมของคุณนพดลให้สมบูรณ์
คงต้องกล่าวตามตรงว่า เมื่อต้องทำจริงๆ เห็นขนาดแล้วใจสั่นนิดหน่อย ดังที่แจ้งไว้ตรงคำนำในการพิมพ์ครั้งนั้น
การอ่านในฐานะสำนักพิมพ์ผู้จัดพิมพ์ จะไม่ได้อ่านเพียงเอาเรื่องเอาความสนุก แต่จะนึกด้วยว่าคนอ่านที่จะได้อ่าน เขาจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับเราหรือเปล่า บางครั้งอ่านไป หาเหตุผลรวมไปถึงอารมณ์ความรู้สึก เพื่อตอกย้ำความมั่นใจไป บ่อยครั้งถามตัวเองว่าตัดสินใจผิดหรือไม่ที่จะลงทุนจัดพิมพ์เล่มนี้ เมื่อนึกถึงความหนา นิสัยการ (ไม่) อ่าน และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ
แต่ก็มีปากแข็ง ตามประสา
สำหรับเล่มนี้ อ่านจบแล้ว ได้คำตอบกับตัวเองว่า ไม่ผิด เราไม่ได้ตัดสินใจผิดที่จัดพิมพ์ ยินดีและเป็นเกียรติเสียด้วยซ้ำ
---
จะสิ่งใดล้วนเกิดขึ้นได้
อีก 5 ปีต่อมา มีนาคม พ.ศ.2564 เรามี บันทึกนกไขลาน ฉบับกำมะหยี่พิมพ์ 2 ที่มีทั้งปกอ่อนและปกแข็ง
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ทำให้วันนี้เป็นเช่นนี้
สำนักพิมพ์กำมะหยี่
มีนาคม 2564