NEW หนังสือ ปิดสิ้นบังแสง -นวนิยายนัวร์ญี่ปุ่น ชายหนุ่มสูญเสียคนรัก แต่ไม่อาจหักใจยอมรับได้

นวนิยายส่องฉายความเศร้าและความสับสน โดยนักเขียนร่วมสมัยสายนัวร์ชาวญี่ปุ่น FUMINORI  NAKAMURA ผู้เขียน 'นักล้วง','นกต่อ', 'เด็กชายใต้ผืนดิน', 'ปืน'

เรื่องราวของชายหนุ่มผู้สูญเสียคนรักแต่ไม่อาจหักใจยอมรับได้ 

ครั้งแรกที่พวกเคนจิถามถึงมิกิหลังจากความตายของเธอ ผมตอบออกไปแทบจะอัตโนมัติว่ามิกิอยู่อเมริกา ผมยังจำได้ดีถึงความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ซ่านในหัวใจตอนพูดประโยคนั้นออกไป ในใจของผมรู้สึกเหมือนมิกิยังไม่ตาย ผมร่ายยาวเกี่ยวกับชีวิตแสนสุขของมิกิให้พวกเคนจิฟัง ระหว่างที่เล่า จิตใจผมสงบอย่างน่าทึ่ง ผมรู้สึกเบิกบานด้วยซ้ำ 

นี่เป็นเรื่องราวของความรักบริสุทธิ์หรือความวิกลจริตกันแน่

นิยายของผมเป็นเรื่องเกี่ยวกับความลึกในหัวใจของมนุษย์ ผมเขียนหนังสือแนวดาร์กๆ ก็จริง แต่ผมเขียนด้วยความตระหนักถึงความหวัง ผมเชื่อว่าความหวังที่แท้จริงหาเจอได้แค่เพียงในความมืดดำที่อยู่ลึกในก้นบึ้ง  - ฟุมิโนริ นาคามุระ

—เกี่ยวกับผู้เขียน 

ฟุมิโนริ นาคามุระ

เกิดเมื่อปีค.ศ.1977 ที่จังหวัดไอจิ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฟุคุชิมะ เริ่มเข้าสู่วงการนักเขียนในปี 2002 ด้วยการคว้ารางวัลนักเขียนหน้าใหม่จัดโดยสำนักพิมพ์ชินโจฉะจากผลงานเรื่อง Juu (The Gun - ปืน) จากนั้นผลงานลำดับถัดๆ ไปของเขาก็คว้ารางวัลมากมาย เช่น ในปี 2004 นวนิยายเรื่อง Shako (Shield Me from the Light -ปิดสิ้นบังแสง) ได้รับรางวัลนักเขียนหน้าใหม่รางวัลวรรณกรรมโนะมะ  ปี 2005 เรื่อง Tsuji no naka no kodomo (The Boy In The Earth - เด็กชายใต้ผืนดิน) ได้รับรางวัลอุคุตะงาวะ  ปี 2010 เรื่อง Suri (The Thief - นักล้วง) คว้ารางวัลโอเอะ เค็นซาบุโร  

หนังสือที่ได้รับรางวัลที่กล่าวมาทั้งหมดได้รับการจัดพิมพ์ในฉบับภาษาไทยแล้วโดยสำนักพิมพ์กำมะหยี่

—จากสำนักพิมพ์ 

ขอต้อนรับอีกครั้งสู่การสำรวจด้านมืดของจิตใจมนุษย์ โลกแห่งความสิ้นหวังและความผิดพลาดที่สะท้อนความจริงอันโหดร้ายของชีวิต

เมื่อเปิดหน้าถัดไป ความมืดมิดจะค่อยๆ แผ่ขยายเข้าครอบคลุม ขณะที่ผู้เขียนพาเราเดินเข้าสู่เรื่องราวดำหม่น สัมผัสมุมลึกเร้นในจิตใจของชายหนุ่มผู้สูญเสีย สับสน ล่องลอย และลุ่มหลง

ตัวละครของฟุมิโนริ นาคามุระ ไม่มีขาวหรือดำ ไม่อาจตัดสินได้ว่าถูกหรือผิด ชั่วหรือดี เพราะนอกจากจะมีหลายเฉดแล้ว ยังซ่อนหลายชั้น

มนุษย์นั่นเอง

ฟุมิโนริ นาคามุระ เขียน

กนกวรรณ เกตุชัยมาศ  แปล
132  หน้า ปกอ่อน